วันที่ ๒๐ มิถุนายน ๒๕๖๐ สำนักศึกษาทั่วไป จัดอบรมเชิงปฏิบัติการอาจารย์ผู้ประสานงานรายวิชาศึกษาทั่วไป เพื่อจัดทำ มคอ.๓ และ มคอ.๕ โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่สำนักศึกษาทั่วไปพัฒนาขึ้น (โดยคุณสุลีพร อยู่หว้า) เป้าหมายปลายทางคือ เอื้อให้อาจารย์ผู้ประสานงานและอาจารย์ผูสอนจัดการเรียนการสอนได้อย่างสะดวกที่สุด ไม่ต้องเสียเวลากับงานเอกสารมากนัก ซึ่งนอกจากเรื่อง มคอ. แล้ว ยังมีระบบอื่น ๆ ทั้งที่เป็นความลับเฉพาะผู้ประสานงานรายวิชาและส่วนที่มุ่งประชาสัมพันธ์สื่อสารกับอาจารย์และผู้เรียนด้วย เช่น เว็บไซต์รายวิชา เว็บไซต์อาจารย์ เป็นต้น
บันทึกนี้ผมจะมาพาอาจารย์ผู้อ่านทำ มคอ.๓ มคอ.๕ ของรายวิชาศึกษาทั่วไป ตามหลักสูตรหมวดวิชาศึกษาทั่วไป (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๕๘) ที่มาที่ไปและหลักการเขียนผมเคยบันทึกไว้แล้ว
ที่นี่ ที่นี่ และ
ที่นี่ หลังจากการทำในระบบครั้งนี้แล้ว ต่อไป การทำ มคอ. จะเป็นเรื่องง่ายใช้เวลาไม่เกินครึ่งชั่วโมงครับ
วิธีทำ มคอ.๓
๑) เปิดเว็บเบราเซอร์ เช่น google Chrome ฯลฯ แล้วเติม
genedu.msu.ac.th/mko3-5 ลงบนช่อง URL แล้วกด Enter ครับ
๒) คลิกที่เมนู "เข้าสู่ระบบ" แล้วเติม Username และ Password ที่ท่านได้รับจากสำนักศึกษาทั่วไป (ท่านจะรู้ก็ต่อเมื่อท่านเป็นผู้ประสานรายวิชาหรือเป็นผู้ที่ผู้ประสานงานฯ มอบหมายเท่านั้น)
๓) ตอบข้อมูลในแต่ละหมวด โดยคลิกอักษรสีน้ำเงินและขีดเส้นใต้เท่านั้น ซึ่งจะลิงค์ไปสู่ระบบรับข้อมูลเข้า ระบบจะนำข้อมูลส่วนหนึ่งมาจากหลักสูตรหมวดวิชาศึกษาทั่วไป ทำให้ท่านสะดวกมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องเติมข้อความในหมวดนั้น ๆ
หลักคิดและหลักการในการเขียนแต่ละหมวด ดังนี้ครับ
หมวดที่ ๒ จุดมุ่งหมายและวัตถุประสงค์
- กำหนดจุดมุ่งหมายของรายวิชา การเขียนจุดมุ่งหมายของรายวิชา มีหลักการ (ซึ่งผมเคยเขียนไว้ที่นี่แล้ว) ดังนี้
- ควรเขียนให้ครบถ้วนผลการเรียนรู้ (LO) ทั้ง ๕ ด้าน ตามกรอบ มคอ.๓
- ด้านคุณธรรม จริยธรรม ให้ใช้คำว่า "มี" ก่อนหน้า คุณลักษณะประสงค์ เช่น มีวินัยด้านการตรงต่อเวลา มีจิตอาสา มีความเอื้ออาทร ฯลฯ
- ด้านความรู้ ให้ใช้คำว่า "สามารถอธิบาย" หากต้องการความเข้าใจ.หรือ "บอกได้" หากต้องการให้นิสิตจดจำสิ่งนั้นได้
- ด้านทักษะทางปัญญา ให้ใช้คำว่า "สามารถ.... ได้" โดยขยายให้ลึกถึงคำกริยา เช่น
- สามารถนำความรู้ที่เรียน มาใช้ในการวางแผนและออกแบบการดำเนินงานได้
- สามารถจัดการและดำเนินงานตามแผนที่ออกแบบไว้ได้
- สามารถแก้ปัญหาในการดำเนินงานและสถานการณ์ต่างๆ ได้
- ฯลฯ
- ด้านความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบ ให้เขียนชัดเจนว่า เป็นความรับผิดชอบด้านใด เช่น มีความรับผิดชอบต่อตนเองในงานที่ได้รับมอบหมาย ฯลฯ
- ด้านทักษะการคิดวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสาร และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ จะใช้คำที่ชัดเจนเช่นกัน
- สามารถสื่อสารภาษาไทยได้ สามารถใช้คำศัพท์ภาษาอังกฤษได้
- สามารถใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานได้
- ฯลฯ
หมวดที่ ๔ การพัฒนาการเรียนรู้ของนักศึกษาตามกรอบ TQF ๕ ด้าน
"ผลการเรียนรู้ที่ต้องการจะพัฒนา" แต่ละด้านแบ่งออกเป็น ๓ ส่วน ได้แก่ สิ่งที่ต้องการพัฒนาหรือผลลัพธ์ทางการเรียน (Learning Outcome) วิธีการสอน และวิธีการประเมินผล แนวปฏิบัติในการเขียนแต่ละส่วน มีดังนี้
แนวทางการเขียน Learning Outcome
๑) คัดลอกเอาผลการเรียนที่คาดหวังหลักของหลักสูตรหมวดวิชาศึกษาทั่วไป ซึ่งจะโปรแกรมจะแสดงไว้หลังวงกลมระบายทึบ โดยให้คัดลอกเอาหมายเลขหัวข้อของผลการเรียนฯ นั้นมาด้วย เพื่อให้ทราบถึงความเชื่อมโยงระหว่างรายวิชาและหลักสูตรฯ
๒) พิจารณาปรับแก้ไขข้อความที่คัดลอกมาจากหลักสูตรฯ (ตามข้อ ๑)) ให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของรายวิชา ส่วนใดที่ไม่เกี่ยวให้ตัดออก
๓) เขียนเพิ่มเติมผลการเรียนรู้เฉพาะของรายวิชาอื่นๆ เป็นข้อ ถัดๆ ไป
แนวทางการเขียนวิธีการสอน
สามารถเขียนได้ ๒ แบบ ได้แก่ เขียนเป็นชื่อรูปแบบการสอนที่รู้กันทั่วไป หรือ เขียนอธิบายกิจกรรมการเรียนการสอนพอเข้าใจพอสังเขป เช่น
๑) ให้เขียนรูปแบบการเรียนการสอน ตัวอย่างเช่น
- สอนแบบรรยาย (Lecture) ประกอบสื่อ
- สอนแบบบรรยายสอดแทรกคุณธรรม
- สอนแบบบรรยายแบบมีส่วนร่วม (Integrated Lecture) ถาม-ตอบ
- สอนแบบสาธิตประกอบการบรรยาย (Deomonstrated Lecture)
- สอนโดยใช้กิจกรรมในชั้นเรียน (Activity-based Learning, ABL)
- สอนโดยใช้กรณีศึกษา (Case Study)
- สอนโดยใช้การอภิปรายกลุ่มย่อม (Small Group Disscussion)
- สอนโดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-based Learning)
- สอนโดยใช้โครงงานเป็นฐาน (Project-based Learning)
- สอนโดยการมอบหมายงานเชิงปฏิบัติการ (Workshop) เช่น ทำใบงาน ฯลฯ
- สอนโดยใช้การบริการเป็นฐาน (Service-based Learning)
- สอนโดยใช้ชุมชนเป็นฐาน (Community-based Learning)
- สอนโดยใช้กลุ่มร่วมมือ (Cooperative Learning)
- สอนโดยใช้การเล่าเรื่อง (Story Telling)
- สอนโดยให้ลงมือปฏิบัติ (Learning by doing)
- มอบหมายงานกลุ่ม
- สอนโดยให้นำเสนอและวิพากษ์
- ฯลฯ
๒) เขียนกิจกรรมการเรียนการสอนเฉพาะของรายวิชา เช่น
- ให้ทำบัญชีรับ-จ่าย
- ให้ทำบันทึกความดี
- ให้ทำบันทึกการบริโภค
- ให้ทำบันทึกอนุทิน
- สอนโดยใช้เพลง
- สอนโดยให้สืบค้นออนไลน์ (Internet-based Learning)
- สอนโดยใช้โทรศัพท์มือ (Mobile Learning)
- ฯลฯ
แนวทางการเขียนวิธีประเมินผล
สามารถเขียนได้ ๒ ลักษณะ ได้แก่ เขียนนักการศึกษา และเขียนอธิบายว่าประเมินอะไรด้วยเครื่องมือหรือวิธีการอะไร เช่น
๑) เขียนวิธีการประเมินแบบนักการศึกษา โดยใช้เครื่องมือมาตรฐาน ๔ ชนิด ได้แก่ แบบทดสอบ แบบบันทึกการสังเกต (หรือแบบสังเกต หรือแบบบันทึก) แบบประเมิน และแบบวัด ตัวอย่างเช่น
- ประเมินความรู้ด้วยแบบทดสอบ เช่น การสอบกลางภาค และ/หรือ ปลายภาค
- ประเมินพฤติกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะด้านคุณธรรม จริยธรรม เช่น ความรับผิดชอบ ความตรงต่อเวลา ความซื่อสัตย์ ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล การทำงานเป็นทีม ฯลฯ ด้วยแบบบันทึกการสังเกตพติกรรม (ต้องออกแบบสังเกตตามวัตถุประสงค์การเรียนรู้)
- ประเมินความสามารถหรือทักษะทางปัญญา โดยใช้แบบวัดความสามารถด้านนั้น ๆ
- ประเมินเจตคติ ความพึงพอใจ หรือทัศคติ โดยใช้แบบประเมินความพึงพอใจ
- ฯลฯ
๒) ให้เขียนว่าประเมินอะไรด้วยวิธีการหรือเครื่องมืออะไร เช่น
- ประเมินวินัยด้านการตรงต่อเวลาจากพฤติกรรมการเข้าเรียนและการส่งงาน
- ประเมินวินัยด้านความรับผิดชอบจากพฤติกรรมการส่งงาน
- ประเมินความรู้จากการทำใบงานหรือใบกิจกรรม
- ประเมินการนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ด้วยการให้ทำใบงานหรือใบกิจกรรม
- ประเมินความสามารถในการวางแผนและออกแบบแผนงาน จากเค้าโครงงาน
- ประเมินความสามารถในการทำงานเป็นทีม จากผลการดำเนินโครงงาน หรือ ชิ้นงาน
- ประเมินความทักษะการสื่อสารจากการแสดงออก การนำเสนอ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้
- ฯลฯ
สรุปคือเขียนอย่างแบบใดก็ได้ครับ ขอให้ผู้อ่านเข้าใจชัดเจนว่า จะประเมินอะไรด้วยเครื่องมือหรือวิธีการแบบไหน?
หมวดที่ ๕ แผนการสอนและการประเมินผล
แนวปฏิบัติในการเขียน มีดังนี้
๑) อัปโหลดสื่อการสอน
- พาวเวอร์พอยท์ ไฟล์เอกสารที่เป็นไฟล์ pdf หรือ ไฟล์สื่อใด ๆ ที่มีขนาดไม่ใหญ่เกินไป ไม่ควรเป็นวีดีโอที่มีความยาวเกิน ๕ นาที
- สื่อที่อัปโหลดไว้นี้ จะอยู่ในฐานข้อมูลสำหรับการสร้างเว็บไซต์รายวิชา ที่นิสิตและอาจารย์สามารถเข้าถึงได้ ดาวน์โหลดได้
๒) เขียนแผนการสอน ซึ่งแสดงรายละเอียดถึงระดับบทเรียนหรือหน่วยการเรียนรู้ มีสิ่งที่ต้องเติมดังนี้
สิ่งที่ต้องเติมในแต่ละช่อง มีดังนี้
- สัปดาห์ที่ ..... ตัวโปรแกรมจะเรียงตามหมายเลขนี้
- หัวข้อ/รายละเอีด ให้เติมชื่อหน่วยการเรียน หรือชื่อบทเรียน หรือชื่อกิจกรรม
- จำนวนชั่วโมง ให้เติมจำนวนชั่วโมงในแต่ละคาบเป็นจำนวนเต็ม แตกต่างกันไปตามรายวิชา เช่น
- วิชา 2(2-0-4) ให้เติมเลข 2
- วิชา 2(1-2-3) ให้เติมเลข 3
- ผลการเรียนรู้ ให้คลิกเลือกช่องวงกลมเล็กให้ทึบ เพื่อกำหนดผลการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับหลักสูตรหมวดวิชาศึกษาทั่วไป แนะนำให้คลิกร่าง "พิมพ์รายงาน มคอ.๓" ก่อน แล้วเปิดไฟล์ doc เปิดตรวจสอบได้สะดวกจาก "ผลการเรียนรู้ที่ต้องพัฒนา" ที่ได้กำหนดไว้แล้ว
- วัตถุประสงค์การเรียนรู้ ช่องนี้ให้เติมผลการเรียนรู้ของหน่วยการเรียนรู้หรือบทเรียนนั้น ๆ
- กิจกรรมการเรียนรู้/วิธีสอน ให้เขียนบอกกิจกรรมการเรียนการสอนพอให้ผู้อ่านซึ่งเป็นอาจารย์ผู้สอนและนิสิตผู้เรียน เข้าใจร่วมกันพอสังเขป
- คลิกเลือกสื่อการสอนที่อัปโหลดไว้
- วิธีประเมิน ให้เขียนวิธีประเมินในสัปดาห์หรือบทเรียนนั้น ๆ ถ้ามี หากไม่มีให้เว้นว่างไว้
- อาจารย์ผู้สอนให้คลิกเลือก "อาจารย์ประจำกลุ่ม"
หากพิมพ์ต้องการแก้ไข โปรแกรมนี้จะไม่สามารถแก้ไขได้โดยสะดวกนัก ให้ใช้เทคนิคดังนี้ หากต้องการแก้ไขข้อมูลในสัปดาห์ที่ 1 ให้ดำเนินการดังนี้
- เติมหมายเลขสัปดาห์เป็น เลย "1" ลงในแถวใหม่
- ก๊อปปี้ส่วนที่ถูกต้องแล้วลงในแต่ละคอลัมน์
- เติมหรือแก้ไขตามต้องการ แล้วกดเพิ่มข้อมูล
- กดลบแถวเดิมและยืนยันการลบ เป็นอันเรียบร้อยครับ
๓) แผนการประเมินผลการเรียนรู้
- ให้เขียนบอกวิธีประเมินผล โดยเขียนแบบรวบรวมทั้งหมดทุกหน่วยการเรียน (บทเรียน) เข้าด้วยกัน เช่น
- การเข้าร่วมกิจกรรม
- สอบกลางภาค
- สอบปลายภาค
- ใบงาน (งานเดี่ยว)
- โครงงาน (งานกลุ่ม)
- ฯลฯ
- คลิกทึบเพื่อเลือกความสอดคล้องกับ TQF ๕ ด้าน
- เติมสัดส่วนคะแนน คิดเป็นเปอร์เซ็นต์
หมวดที่ ๖ ทรัพยากรประกอบการเรียนการสอน
๑) ตำราและเอกสารหลักที่ใช้ในการเรียนการสอน ให้เขียนถึง เอกสารประกอบการสอน รายวิชา ๐๐๓xxxxx ...(ชื่อวิชา)..... เช่น
- เอกสารประกอบการสอน รายวิชา ๐๐๓๒๐๐๔ ความเป็นมนุษย์และการเรียนรู้
- ฯลฯ
๒) เอกสารและข้อมูลสำคัญที่นิสิตจำเป็นต้องศึกษาเพิ่มเติม คือ เอกสารหรือหนังสือ ที่ผูู้เรียนจำเป็นต้องไปศึกษาเพิ่มเติมด้วยตนเอง ให้เติมแห่งอ้างอิงของหนังสือนั้น เช่น
- ปรียานุช
ธรรมปิยา. วิกฤตเศรษฐกิจ. .อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน)
.พิมพ์ครั้งที่ ๓. ๒๕๕๗
- ฯลฯ
- หรืออาจเขียนเป็นข้อตกลง เช่น ให้เป็นไปตามที่อาจารย์ผู้สอนกำหนด ฯลฯ
๓) เอกสารและข้อมูลแนะนำที่นิสิตควรศึกษาเพิ่มเติม ให้เขียนเติมแหล่งอ้างอิง
หมวดที่ ๗ การปรับปรุงและการดำเนินงานของรายวิชา
- กลยุทธ์การประเมินประสิทธิผลของรายวิชาโดยนักศึกษา ได้แก่
- นิสิตประเมินประสิทธิผลของการเรียนการสอน ผ่านระบบประเมินอาจารย์ผู้สอนปลายเปิด
- สำนักศึกษาทั่วไปทำวิจัยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในภาพรวม กลุ่มเป้าหมายเป็นนิสิตในแต่ละรายวิชา
- หรืออาจารย์เขียนเพิ่มเติมกลยุทธ์อื่น ๆ
- กลยุทธ์การประเมินการสอน ได้แก่
- นิสิตทุกคนต้องเข้าประเมินการสอนของอาจารย์ผ่านระบบประเมินออนไลน์
- ฯลฯ
- การปรับปรุงการสอน ได้แก่
- ประชุมอาจารย์ผู้สอนเพื่อพัฒนาการจัดการเรียนการสอน ภาคการศึกษาละ ๑ ครั้ง
- ฯลฯ
- การทวนสอบมาตรฐานผลสัมฤทธิ์ของนักศึกษาในรายวิชา
- เข้าร่วมกระบวนการทวนสอบผลสัมฤทธิ์ของสำนักศึกษาทั่วไป ปีการศึกษาละ ๑ ครั้ง
- ประชุมพิจารณาผลการเรียนของแต่ละภาคเรียน
- ฯลฯ
- การดำเนินการทบทวนและการวางแผนปรับปรุงประสิทธิผลของรายวิชา
- ทบทวนและปรับปรุงรายวิชา ตามรอบประกันคุณภาพการศึกษา ทุก ๔ ปี
ขอขอบพระคุณอาจารย์และบุคลากรทุกท่านมากครับ อ.สมศักดิ์ อ.นพดล อ.ปภัสสร อ.อินอร อ.ประภาส อ.อำนวย อ.กฤษกร อ.ณภัสวรรณ อ.สาายไหม อ.ทวีพงษ์ อ.ชุน อ.อาจินต์ อ.วรากร อ.วาสนา อ.นันทวรรณ และคุณสุดารัตน์ (จากคณะการท่องเที่ยว) ... ขออภัยที่ไม่ได้เติม ตนทวชก. นะครับ