วันเสาร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2556

หลักสูตรพัฒนาผู้อำนวยการโรงเรียนและครู: หลักสูตร KMยกกำลังสอง



กระบวนทัศน์ของการพัฒนาครูตาม “หลักสูตร KM2 แสดงดังรูปจำลองธรรมจักรด้านล่าง

KM2=Knowledge Management * Kanlayana Mitree = การจัดการความรู้ * กัลยาณมิตร  หมายถึงการพัฒนาครูอย่างเป็นกัลยาณมิตรโดยใช้การจัดการความรู้เป็นเครื่องมือ
วัตถุประสงค์ของหลักสูตร คือ เปลี่ยนกระบวนทัศน์และปรับกระบวนการให้ผู้อำนวยการบริหารด้วยกระบวนการเชิงราบ ปฏิบัติอย่างเป็นกัลยาณมิตร ครูหันมาใช้จิตวิทยาเชิงบวกอย่างจริงจัง เน้นการเรียนรู้กระบวนการเรียนรู้  โดยเฉพาะการเรียนการสอนแบบ (PBL)  และที่สำคัญคือต้องทำงานเป็นทีม สำหรับครูคือ ชุมชนเรียนรู้ครูเพื่อศิษย์ หรือ PLC

กัลยาณมิตรและโยนิโสมนสิการ เป็นสิ่งจำเป็นในการหมุนกงล้อธรรมจักรให้หมุนไปจากภายในของคน โยนิโสมนสิการหรือการคิดโดยแยบคายนั้น เป็นทักษะที่แต่ละคนต้องฝึกฝนและพัฒนาตนเอง ส่วนการชี้แนะกระตุ้นจากกัลยาณมิตรนั้นเป็นปัจจัยสำคัญให้สามารถหมุนธรรมจักรได้ หากเปรียบการหมุนธรรมจักรเหมือนการพัฒนาทักษะในศตวรรษที่ 21 ของนักเรียน ครู ก็เปรียบเหมือนกัลยาณมิตร  4 ประเภท ที่บทบาทหน้าที่ให้นักเรียนหมุนกงล้อธรรมจักรไปได้ ดังนี้

  • เป็นมิตรอุปการะ หรือเปรียบเหมือน เป็นครูฝึก (Coach)  ทำให้นักเรียนได้ “ฝึกคิด” “ฝึกทำ” “ฝึกเรียนรู้ด้วยตนเอง”
  • เป็นมิตรน้ำใจดี หรือเปรียบเหมือนเป็น “คุณอำนวย” ให้นักเรียนได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และส่งเสริมให้ประสบผลสำเร็จ ยิ่งขึ้นไป
  • เป็นมิตรแนะประโยชน์ หรือเปรียบเหมือนเป็นพี่เลี้ยง (Mentor) คอยชี้แนะทิศทางที่ถูกต้อง  ชี้ให้เห็นประโยชน์  บอกเหตุผลที่เหมาะสมถูกต้องในการตัดสินใจคิดหรือทำ
  • o  เป็นมิตรร่วมสุขร่วมทุกข์  หรือเปรียบเหมือนเพื่อนผู้ให้คำปรึกษาปัญหาในใจ (Counseling) ร่วมทุกข์ช่วยให้พ้นจากทุกข์ ร่วมสุขและช่วยให้ไม่ติดกับความสุข ทำให้นักเรียนมีภูมิคุ้มกันภายในที่ดี พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ
เครื่องมือต่างๆ จากกระบวนการจัดการความรู้ (Knowledge Management) ได้แก่
  • Before Action Review หรือ BAR ใช้ในการทบทวนความคาดหวัง ภาพแห่งความสำเร็จ และบทบาทสำคัญของตนเอง ตลอดจนบริหารความเสี่ยงที่อาจทำให้ไม่บรรลุเป้าหมายนั้น พร้อมทั้งเตรียมการไว้ล่วงหน้า
  • After Action Review หรือ  AAR  ใช้ในการตรวจสอบ ผลการเรียนรู้ หรือผลการดำเนินงานต่างๆ ว่าได้บรรลุตามที่ได้ BAR ไว้หรือไม่ ไม่บรรลุเพราะเหตุใด หากจะต้องทำอีก หากจะทำให้ดีขึ้นจะต้องทำอย่างไร  ฯลฯ
  • การถอดประสบการณ์ หรือ การถอดบทเรียน เป็นกระบวนการสะท้อนบทเรียนที่ได้เรียนรู้  สิ่งที่ได้เห็น ความรู้สึกที่เกิดขึ้น ความคิดใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นตามมา และแนวทางในการนำไปปรับประยุกต์ใช้ต่อไป
  • การบวนการเรียนรู้จากภายใน หรือจิตตปัญญาศึกษา เช่น การฟังอย่างลึกซึ้ง (Deep Listening)  สุนทรียสนทนา (Dialouge)  ฯลฯ
  • การแลกเปลี่ยนเรียนรู้  (Share) เช่น แลกเปลี่ยนแบ่งปัน (Show and Share) กิจกรรมเวิร์ลคาเฟ่ (World Café’)  เรื่องเล่าเร้าพลัง (Success Story Telling)  ฯลฯ




ขั้นตอนในการพัฒนาครูตามหลักสูตร KM2 อาจแบ่งได้เป็น 3 ขั้นตอนหลัก ได้แก่
1.      ขั้นพัฒนาครู  
  • เริ่มตั้งแต่ ทำ BAR  เพื่อศึกษาจุดมุ่งหมาย บริบทของครู โรงเรียน และชุมชน
  • จัดเวทีฝึกอบรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผู้อำนวยการโรงเรียนและศึกษานิเทศ เพื่อพัฒนาทักษะการจัดการความรู้ และทักษะการ Coaching, Mentoring , และ Counseling
  • ลงพื้นที่ไปเรียนรู้สภาพจริง บริบทจริงของโรงเรียนและครูเพื่อนำมาออกแบบ กิจกรรมพัฒนาครู
  • จัดเวทีพัฒนาครูโดยใช้กระบวนการ KM  โดยใช้กระบวนการภายในให้ “มองเด็กรายบุคคล” “มองตนเอง” และ “มองหากัลยาณมิตร” เพื่อที่จะทำ PLC พัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน
  • ลงพื้นที่ติดตาม “นิเทศแบบ KM2” เพื่อ Coaching และ Mentoring เพื่อความต่อเนื่อง
2.      ขั้นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และจัดการความรู้
  • จัดให้มีเวทีเพื่อให้ครูได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อค้นหาประสบการแห่งความสำเร็จที่โดดเด่น หรือแนวปฏิบัติที่ดี (Best Practice, BP)
  • ค้นหาครูเพื่อศิษย์ที่จะสามารถเป็นครูแกนนำขับเคลื่อนขยายผลต่อไป
  • ถอดบทเรียน BP จากครูเพื่อศิษย์แกนนำ เพื่อนำออกเผยแพร่ต่อไป
3.      ขั้นเผยแพร่ BP และความสำเร็จของหลักสูตร
  • จัดเวที  AAR  เพื่อประเมินผล และขยายความสำเร็จด้วยการเล่าเรื่อง (SST)
  • วิเคราะห์ สังเคราะห์ ปัจจัยแห่งความสำเร็จ เพื่อเผยแพร่สู่ PLC ต่อไป
  • นำประสบการณ์ไปปรับปรุงหลักสูตรต่อไป

สำหรับขั้นตอนของกิจกรรมโดยละเอียดตาม “ตามหลักสูตร KM2) สามารถอ่านได้จากหัวข้อ  “บันทึกจากกระบวนกร” ในเอกสารนี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น