กระบวนทัศน์ของการพัฒนาครูตาม “หลักสูตร KM2 แสดงดังรูปจำลองธรรมจักรด้านล่าง
KM2=Knowledge Management * Kanlayana Mitree = การจัดการความรู้ * กัลยาณมิตร หมายถึงการพัฒนาครูอย่างเป็นกัลยาณมิตรโดยใช้การจัดการความรู้เป็นเครื่องมือ
วัตถุประสงค์ของหลักสูตร คือ
เปลี่ยนกระบวนทัศน์และปรับกระบวนการให้ผู้อำนวยการบริหารด้วยกระบวนการเชิงราบ
ปฏิบัติอย่างเป็นกัลยาณมิตร ครูหันมาใช้จิตวิทยาเชิงบวกอย่างจริงจัง
เน้นการเรียนรู้กระบวนการเรียนรู้
โดยเฉพาะการเรียนการสอนแบบ (PBL) และที่สำคัญคือต้องทำงานเป็นทีม สำหรับครูคือ
ชุมชนเรียนรู้ครูเพื่อศิษย์ หรือ PLC
กัลยาณมิตรและโยนิโสมนสิการ เป็นสิ่งจำเป็นในการหมุนกงล้อธรรมจักรให้หมุนไปจากภายในของคน
โยนิโสมนสิการหรือการคิดโดยแยบคายนั้น เป็นทักษะที่แต่ละคนต้องฝึกฝนและพัฒนาตนเอง ส่วนการชี้แนะกระตุ้นจากกัลยาณมิตรนั้นเป็นปัจจัยสำคัญให้สามารถหมุนธรรมจักรได้
หากเปรียบการหมุนธรรมจักรเหมือนการพัฒนาทักษะในศตวรรษที่ 21 ของนักเรียน
ครู ก็เปรียบเหมือนกัลยาณมิตร 4 ประเภท ที่บทบาทหน้าที่ให้นักเรียนหมุนกงล้อธรรมจักรไปได้ ดังนี้
- เป็นมิตรอุปการะ หรือเปรียบเหมือน เป็นครูฝึก (Coach) ทำให้นักเรียนได้ “ฝึกคิด” “ฝึกทำ” “ฝึกเรียนรู้ด้วยตนเอง”
- เป็นมิตรน้ำใจดี หรือเปรียบเหมือนเป็น “คุณอำนวย” ให้นักเรียนได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และส่งเสริมให้ประสบผลสำเร็จ ยิ่งขึ้นไป
- เป็นมิตรแนะประโยชน์ หรือเปรียบเหมือนเป็นพี่เลี้ยง (Mentor) คอยชี้แนะทิศทางที่ถูกต้อง ชี้ให้เห็นประโยชน์ บอกเหตุผลที่เหมาะสมถูกต้องในการตัดสินใจคิดหรือทำ
- o เป็นมิตรร่วมสุขร่วมทุกข์ หรือเปรียบเหมือนเพื่อนผู้ให้คำปรึกษาปัญหาในใจ (Counseling) ร่วมทุกข์ช่วยให้พ้นจากทุกข์ ร่วมสุขและช่วยให้ไม่ติดกับความสุข ทำให้นักเรียนมีภูมิคุ้มกันภายในที่ดี พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ
- Before Action Review หรือ BAR ใช้ในการทบทวนความคาดหวัง ภาพแห่งความสำเร็จ และบทบาทสำคัญของตนเอง ตลอดจนบริหารความเสี่ยงที่อาจทำให้ไม่บรรลุเป้าหมายนั้น พร้อมทั้งเตรียมการไว้ล่วงหน้า
- After Action Review หรือ AAR ใช้ในการตรวจสอบ ผลการเรียนรู้ หรือผลการดำเนินงานต่างๆ ว่าได้บรรลุตามที่ได้ BAR ไว้หรือไม่ ไม่บรรลุเพราะเหตุใด หากจะต้องทำอีก หากจะทำให้ดีขึ้นจะต้องทำอย่างไร ฯลฯ
- การถอดประสบการณ์ หรือ การถอดบทเรียน เป็นกระบวนการสะท้อนบทเรียนที่ได้เรียนรู้ สิ่งที่ได้เห็น ความรู้สึกที่เกิดขึ้น ความคิดใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นตามมา และแนวทางในการนำไปปรับประยุกต์ใช้ต่อไป
- การบวนการเรียนรู้จากภายใน หรือจิตตปัญญาศึกษา เช่น การฟังอย่างลึกซึ้ง (Deep Listening) สุนทรียสนทนา (Dialouge) ฯลฯ
- การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (Share) เช่น แลกเปลี่ยนแบ่งปัน (Show and Share) กิจกรรมเวิร์ลคาเฟ่ (World Café’) เรื่องเล่าเร้าพลัง (Success Story Telling) ฯลฯ
ขั้นตอนในการพัฒนาครูตามหลักสูตร KM2 อาจแบ่งได้เป็น 3 ขั้นตอนหลัก ได้แก่
1.
ขั้นพัฒนาครู
- เริ่มตั้งแต่ ทำ BAR เพื่อศึกษาจุดมุ่งหมาย บริบทของครู โรงเรียน และชุมชน
- จัดเวทีฝึกอบรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผู้อำนวยการโรงเรียนและศึกษานิเทศ เพื่อพัฒนาทักษะการจัดการความรู้ และทักษะการ Coaching, Mentoring , และ Counseling
- ลงพื้นที่ไปเรียนรู้สภาพจริง บริบทจริงของโรงเรียนและครูเพื่อนำมาออกแบบ กิจกรรมพัฒนาครู
- จัดเวทีพัฒนาครูโดยใช้กระบวนการ KM โดยใช้กระบวนการภายในให้ “มองเด็กรายบุคคล” “มองตนเอง” และ “มองหากัลยาณมิตร” เพื่อที่จะทำ PLC พัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน
- ลงพื้นที่ติดตาม “นิเทศแบบ KM2” เพื่อ Coaching และ Mentoring เพื่อความต่อเนื่อง
2.
ขั้นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และจัดการความรู้
- จัดให้มีเวทีเพื่อให้ครูได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อค้นหาประสบการแห่งความสำเร็จที่โดดเด่น หรือแนวปฏิบัติที่ดี (Best Practice, BP)
- ค้นหาครูเพื่อศิษย์ที่จะสามารถเป็นครูแกนนำขับเคลื่อนขยายผลต่อไป
- ถอดบทเรียน BP จากครูเพื่อศิษย์แกนนำ เพื่อนำออกเผยแพร่ต่อไป
3.
ขั้นเผยแพร่ BP และความสำเร็จของหลักสูตร
- จัดเวที AAR เพื่อประเมินผล และขยายความสำเร็จด้วยการเล่าเรื่อง (SST)
- วิเคราะห์ สังเคราะห์ ปัจจัยแห่งความสำเร็จ เพื่อเผยแพร่สู่ PLC ต่อไป
- นำประสบการณ์ไปปรับปรุงหลักสูตรต่อไป
สำหรับขั้นตอนของกิจกรรมโดยละเอียดตาม “ตามหลักสูตร KM2) สามารถอ่านได้จากหัวข้อ “บันทึกจากกระบวนกร” ในเอกสารนี้


ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น