การทำงานด้วย "KM" และ ทำงานอย่างเป็น "KM" มาตลอด 2 ปีกว่า คำสำคัญ 2 คำ ที่ต้องฝึกทำบ่อยที่สุดคือ "ฟัง" กับ "ถาม" ตามทุกบทบาทที่นี่ครับ
ผม ได้เรียนรู้ "การฟัง 4 แบบ" จากครู "ศรชัย ฉัตรวิริชัย" ครานั้น ท่านและ อ.ประสาท ประเทศรัตน์ มาพาทีม "จิตตปัญญาศึกษามหาสารคาม" เรียนรู้ ดูใจ ดูกาย ด้วย "รีเซ็ต" คำง่ายๆ แต่ทำยาก หลังจากนั้นผมเองนำมาเผยแพร่หลายครั้งต่อหลายครั้ง ได้กล่าวถึงท่านบ้าง ไม่กล่าวถึงบ้าง ก็ขอกราบอภัยไว้ ณ โอกาส นี้ด้วยครับ
ท่านบอกว่า เราอาจจำแนกวิธีการหรือลักษณะการฟังของคนออกได้เป็น 4 แบบ ดังรูป
หาก เราเขียนกราฟแสดงความสัมพันธ์ระหว่าง "เรื่อง" (แกนตั้ง บนเส้นกลางคือ "รู้เรื่อง" ด้านล่างคือ "จมเข้ามาในเรื่องราว" และพื้นที่สีขาวด้านบนคือ "นอกเรื่อง) และ "เวลา" ตั้งแต่เริ่มฟังตรงฝั่งซ้ายที่แกนตัดกัน เราแบ่งการฟังเป็น 4 แบบ ได้แก่
- แบบที่ 1 ฟังแบบ "ฟังแต่ไม่ได้ยิน" หรืออาจบอกว่า "ได้ยินแต่ไม่ได้ฟัง" เรียกแบบหลังนี้จะถูกต้องมากกว่า เพราะความจริงเราใช้ "ใจ" ฟัง เมื่อไหร่ที่ใจไม่ได้ "ตั้ง" เราเรียกว่า ไม่ได้ "ตั้งใจ"ฟัง เราก็จะไม่รู้เรื่อง แม้ว่าเครื่องมือที่เรียกว่า "หู" จะทำหน้าที่ "ได้ยิน"เสียงตามปกติ .... ท่านผู้อ่านลองสังเกตว่าเราไม่ได้ "รู้" ว่าเป็นเสียงอะไรทุกอย่างที่ผ่านหู คนที่ฟังแบบแรกนี้จึง "ไม่รู้เรื่อง"
- แบบ ที่ 2 ฟังแบบ "ฟังแล้วคิดดักหน้า" หรืออาจเรียกได้ว่า ฟังแล้ว "ลอย" ลอยละล่องไปกับการคิด วิถีคิดเดิม ความรู้เก่า ความยึดติดเก่าๆ จะเข้ามาทำหน้าที่ แล้ว "ตัดสิน" ทันทีว่า เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ "ตามที่ตัวเองคิด" จากความจริงเรื่อง "จิต" ที่ทำหน้าที่จำ คิด รู้ รับ หรือจับทีละอย่าง จิตเกิดทีละขณะ เกิดทีละดวง ขณะคิดก็ไม่ได้ "รับ" (ในที่นี้คือไม่ได้ฟัง) ขณะ "จับ" ก็ไม่ได้ "รู้" วินาทีที่เผลอไปคิดทำให้จิตไม่ได้ฟัง
- แบบที่ 3 ฟังแบบ "จม" ฟังแล้วจมเข้าไปในเรื่องราว สังเกตตอนเราดูละครน้ำเน่าซึ้งๆ ใจจะถูก "ดึง" เข้าไปมีส่วนร่วม ร้องไห้น้ำตาซึม หรืออยากตบอยากตีไปด้วย ไม่เชื่อลองจินตนาการตอนที่ดูละครเรื่อง "แรงเงา" ซิครับ...ฮา
- แบบ ที่ 4 ฟังแบบนี้คือแบบที่เราต้องฝึกเอง โดยธรรมชาติเราจะ "ฟัง" แล้ว "คิด" และเมื่อเทียบเคียงกับ "จำ" สัญญาเดิม ก็จะทำให้เรา "รู้เรื่อง" นั่นคือ เราจะฟังและคิดสลับกัน ปัญหาคือจะทำอย่างไรไม่ให้ "ลอย" ออกไป หรือไม่ "จม" เข้าไปในเรื่อง คำตอบคือ เราต้อง "ฟังแบบรู้สึกตัว" ที่ครูบาอาจารย์ท่านเรียกว่า "รู้ตัวทั่วพร้อม" นั่นเองครับ
ผมเองเรียกการฟังแบบที่ 4 นี้ว่า "ฟังแบบลึกซึ้ง"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น